สิ่งสำคัญในการทำความสะอาดบอยเลอร์ คือการทำให้คุณภาพน้ำดีและเหมาะสม ปัญหาและอันตราย ก็หายห่วง
ในการทำความสะอาดบอยเลอร์ ต้องมีการเตรียมสภาพน้ำให้มีคุณภาพเหมาะสมก่อนการนำเข้าบอยเลอร์ เพื่อให้ได้พลังงานที่มีคุณภาพออกมาเช่นกัน ไม่ว่าจะนำไปใช้ในงานด้านไหนก็ตาม การเลือกใช้น้ำที่คุณภาพต่ำ จะนำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ อีกมากมายทีเดียว อาทิ การถ่ายเทความร้อนไม่ดี อาจจะเพิ่มอุณหภูมิให้กับตัวโลหะแล้วเกิดการอ่อนตัวกลายเป็นอันตราย หรือมีหยดน้ำติดมากับไอน้ำมากกว่าปกติ เป็นต้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์อีกด้วย เพราะในบอยเลอร์จะมีสิ่งตกค้างจำพวก ไขมัน เกลือแร่ต่าง ๆ สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง การทำความสะอาดบอยเลอร์ จึงเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ สำหรับการใช้งานบอยเลอร์ ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพตรงตามวัตถุประสงค์
ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้น้ำเข้าสู่ตัวบอยเลอร์ หลังจากที่ทำความสะอาดบอยเลอร์แล้ว ก็อย่าลืมใส่ใจน้ำก่อนเข้าสู่เครื่องด้วยเช่นกัน
- ตะกอนและตะกรัน จะมี เกลือแคลเซียมและแมกนีเซียม ที่ละลายในน้ำ แล้วกลายเป็นตะกรันเกาะพื้นผิว ทำให้การถ่ายเทความร้อนจะลดลงและท่อมีความร้อนสูงสะสม ไม่เป็นผลดีกับบอยเลอร์และคุณภาพไอน้ำที่ได้ออกมาต่ำกว่ามาตรฐาน
- เกิดการกัดกร่อน ทำให้โลหะเปราะ เสียหายได้ง่าย ถ้าหากว่าน้ำนั้นมีสภาพเป็นกรดหรือมีก๊าซที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อาจจะการแตกร้าว เพราะจะทำให้มีความเปราะตามตะเข็บและปลายท่อ เพื่อการป้องกันการรั่วซึมและการระเบิด ทุกครั้งที่ทำความสะอาดบอยเลอร์ ควรตรวจเช็คให้รอบคอบ
- เกิดความเป็นด่างสูง หรือแครี่โอเวอร์ น้ำจำนวนมากติดไปกับไอน้ำก่อให้เกิดปัญหาต่อเครื่องจักร เพราะไขมันในน้ำสารแขวนลอยเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโฟมมิ่ง
ดังนั้น ทุกขั้นตอนของการรักษาคุณภาพน้ำที่ดี ต้องมีความรอบคอบอย่างสูงสุด น้ำควรมีสภาพค่า pH เป็นกลาง อยู่ที่ประมาณ 7-9 ถ้าต่ำกว่า 7 ก็เป็นกรดสูง ถ้าสูงกว่า 9 ก็เป็นด่างสูงนั่นเอง ควรวัดคุณภาพน้ำก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ก็มีการวัดค่ากระด้าง ค่าปริมาณของสารละลาย ซึ่งมีผลต่อการกัดกร่อนโลหะ และจากนั้นทำการปรับแต่งคุณภาพน้ำ ทั้งภายนอกก่อนนำเข้าและภายในบอยเลอร์ด้วยเช่นกัน
เมื่อขั้นตอนในการทำความสะอาดบอยเลอร์ และการดูแลคุณภาพน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะได้พลังงานไอน้ำที่ออกมามีคุณภาพสูงเช่นกัน ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ถูกผลิตออกมาก็ย่อมมีคุณภาพสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ทุกขั้นตอนคงต้องอาศัยผู้ควบคุมที่มีความรู้เฉพาะด้าน รวมถึงถ้าหากมีประสบการณ์และความชำนาญด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานอย่างสูงสุด ไม่เหมือนการใช้กาต้มน้ำแบบธรรมดาที่บ้าน ที่ใคร ๆ ก็ใช้ได้ ถ้าประมาทเลินเล่อไป หรือปฏิบัติแบบรู้เท่าไม่ถึงการ อาจจะเกิดความเสียหายมหาศาลขึ้นได้
