เลือกบอยเลอร์ อย่างไรให้เหมาะสมกับงาน
อย่างที่รู้จักกันดีว่าบอยเลอร์คือเครื่องกำเนิดไอน้ำ ซึ่งรวมไปถึงเครื่องกำเนิดน้ำร้อน และ เครื่องกำเนิดน้ำมันร้อน ภายในบรรจุน้ำและไอน้ำหรือน้ำมัน แบบภาชนะปิด ซึ่งมีหลักการทำงานคือ กำเนิดไอน้ำ น้ำร้อน หรือน้ำมันร้อน เพื่อส่งผ่านความร้อนไปใช้งานกับเครื่องจักร เพื่อลดค่าพลังงานในการใช้ไฟฟ้าและ ลดต้นทุนการผลิตได้ ซึ่งบอยเลอร์ที่นิยมนำมาใช้งานกันมากที่สุดตามโรงงานอุตสาหกรรมน้อยใหญ่ อาคาร สำนักงานต่าง ๆ ก็คือ แบบเครื่องกำเนิดไอน้ำ เพราะไอน้ำเป็นตัวนำความร้อนได้ดีที่สุดและถ่ายเทได้รวดเร็วกว่าแบบน้ำร้อนและน้ำมัน ที่สำคัญราคาเชื้อเพลิงถูกกว่าแบบน้ำมัน วันนี้เราเลยมีข้อมูลของบอยเลอร์ หรือเครื่องกำเนิดไอน้ำแบบต่าง ๆ มาให้คุณได้เลือกนำไปใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงานในโรงงานอุตสาหกรรมน้อยใหญ่หรือ อาคาร สำนักงานของคุณ ไปดูกันเลยค่ะ
บอยเลอร์ แบบเครื่องกำเนิดไอน้ำ (steam boiler) เราจะแบ่งตามลักษณะของการถ่ายเทความร้อน ซึ่งการใช้งานทั่ว ๆ ไปจะใช้อุณภูมิไม่เกิน 220 องศาเซลเซียส
- แบบท่อไฟ (fire tube boiler) เป็นหม้อน้ำที่มีไฟวิ่งไปตามท่อไฟ และถ่ายเทความร้อนให้กับน้ำที่ล้อมรอบท่อไฟ ซึ่งแบ่งย่อยเป็นอีก 4 แบบ ดังนี้
- แบบลูกหมู (Cornish or Lancashire boiler 1) เป็นหม้อน้ำที่มีโครงสร้างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ประกอบด้วย เปลือกหม้อน้ำและตัวลูกหมู (ท่อไฟใหญ่) หุ้มด้วยอิฐหนาที่ทนไฟได้สูงเกือบมิดเปลือกหม้อน้ำ หรือ ¾ ของทั้งหมด ส่วนใหญ่จะนำไปใช้กับ โรงสีข้าวหรือโรงเลื่อย ซึ่งใช้แกลบหรือฟืนเป็นเชื้อเพลิง
ข้อดีของแบบลูกหมูคือ มีระบบการทำงานง่ายและโครงสร้างไม่ซับซ้อน ราคาถูก สะดวกต่อการทำความสะอาด
ข้อเสีย คือ กว่าจะได้เอาไอน้ำไปใช้งาน ต้องใช้เวลานานในการติดเชื้อเพลิง ใช้พื้นที่เปลือง และถ่ายเทความร้อนไม่ดี ได้ความดันต่ำ เพราะใช้เหล็กหนามาก
- แบบหม้อเรือ
- แบบหม้อรถไฟ
- แบบท่อน้ำ (Water tube boiler) ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถออกแบบเป็นแบบท่อไฟได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก 100 – 300 ตัน หรือใช้แรงดันสูงที่ 20 บาร์ ขึ้นไป
นอกจากนี้การแบ่งประเภทของเครื่องกำเนิดไอน้ำ ยังแบ่งตามความเหมาะสมที่จะนำไปใช้งานดังนี้
- แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
- แบ่งตามลักษณะการวางแนวแกนของเปลือกหม้อไอน้ำ
- แบ่งตามตำแหน่งเตา
- แบ่งตามน้ำหรือแก๊สร้อนที่อยู่ในท่อ
ด้วยข้อมูลเหล่านี้หวังว่าใครหลาย ๆ คนจะได้รับความรู้ประกอบการพิจารณาในการเลือกบอยเลอร์ หรือ เครื่องกำเนิดไอน้ำ แบบต่าง ๆ ได้เหมาะสม ถูกต้อง ตามลักษณะงานที่คุณจะนำไปใช้ เพื่อให้เกิดความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนะคะ ทั้งนี้จะช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นออกไปได้